วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ปัญหาของเส้นผมจาก B-Swan

สาเหตุและปัญหาของเส้นผม จาก B-Swan



ผมมีรังแค
ภาวะของเส้นผมที่มีรังแค เกิดขึ้นได้เนื่องจากมีเชื้อยีสต์บนหนังศีรษะมากกว่าปกติ ชื่อ "Pityrosporum ovale" โดยทั่วไป ผู้ที่มีผมมัน มักจะมีรังแคมากกว่าผมธรรมดาทั่วไป ลักษณะของหนังศีรษะ จะลอกเป็นแผ่นขุย บางครั้งเป็นสะเกิดหนาขึ้นได้ มักมีอาการคันร่วมด้วย บางคนคันมาก บางคนคันน้อย แต่ไม่ใช่โรคติดต่อ เพราะฉะนั้นถ้าใครมีรังแคมาก ลองล้มตัวลงนอนที่หมอนใบหนึ่ง แล้วเราลองล้มตัวลงนอนที่หมอนใบเดียวกัน ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะทำให้เส้นผมของเราติดรังแคมาด้วย ทำให้เส้นผมมีรังแค เพราะไม่ใช่โรคติดต่อนะคะ ไม่เหมือนกับโรคเหา ซึ่งติดต่อได้ง่าย ผู้ที่ผมมีรังแค ถ้ารังแคเกิดมากขึ้น จะทำให้ผมร่วงมากขึ้นได

สาเหตุ ที่ทำให้ผมมีรังแคมากนั้น อันเนื่องมาจาก
1. ความเครียด วิตก กังวล (stress)
2. การทำงานหนักมากเกินไป
3. การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
4. มักจะเป็นกรรมพันธุ์ เช่น มีพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย เป็นรังแค จะส่งผลมาถึงลูกหลานได้




ผมร่วง/ผมบาง
ปัญหา ผมร่วงและผมบาง เราทุกคน ทั้งควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ ยกตัวอย่างกรณีที่ควบคุมได้ เช่นการใช้เครื่องอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันของเราที่ต้องสัมผัสแทบทุกวัน ทั้งสบู่ แชมพูสระผม เจล หรือโลชั่นต่างๆ ฯลฯซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่วนมากเป็นสารเคมี บางท่านใช้แล้วเกิดอาการแพ้ หรือกรณีแชมพูสระผม ซึ่งต้องใช้อยู่เป็นประจำ ถ้าเกิดใช้แชมพูที่มีฤทธิ์แรงจนเกินไป ก็อาจสร้างปัญหาให้กับเส้นผมได้ เส้นผมอาจร่วงมากขึ้น หรือเกิดอาการแพ้สารบางชนิดในแชมพู สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลกระทบโดยตรงต่อผมร่วงและผมบาง ทางที่ดีผู้ใช้ควรหมั่นตรวจสอบดูผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เราใช้ในชีวิตประจำวันที่จะมีผลกระทบต่อทุกส่วนของสรีระของเรา เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาติดตามมาในภายหลัง นอกจากแชมพูแล้ว ยังมีสารเคมีอื่นๆอีกมากมายโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการเสริมสวยเส้นผม ถ้าลดสิ่งเหล่านี้ได้ก็จะเป็นผลดีกับสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผมโดยตรง เพราะสิ่งเหล่านี้เราทุกคนสามารถควบคุมใช้หรือไม่ใช้ได้ เราควรเลือกใช้แต่เฉพาะส่วนที่จำเป็นจริงๆที่ต้องใช้เท่านั้น นอกจากปัจจัยต่างๆที่เราสามารถควบคุมได้แล้ว ยังมีปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ในบางครั้งคราว เช่นมลพิษต่างๆ ความเครียด ภาวะแสงแดดที่ร้อนจัด ฯลฯ

ปัญหาของผมร่วง มาจาก 2 สภาวะ ดังนี้
1 ) ผมร่วง จากรากผมถูกทำลาย ผมที่ร่วงจากรากผมถูกทำลายมาจากหลายๆสาเหตุด้วยกัน
- ผมร่วงจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศทั้งชายและหญิง ก่อให้เกิดปัญหาผมร่วงได้ ฮอร์โมนบางชนิด ( DHT ) จะเข้าไปทำลายรากของเส้นผมโดยเฉพาะตรงบริเวณส่วนหน้าในเพศชาย
- รากผมถูกทำลายจาก เกลือและยูเรีย ที่ถูกขับออกมาในรูปของเหงื่อผ่านทางรูขุมขน เกลือและยูเรียมีฤทธิ์กัดกร่อนและเป็นอันตรายต่อเส้นผม
- รากผมถูกทำลายจากโรคบางชนิด เช่น มะเร็ง ไตวายเรื้อรัง เอ็ดส์ ฯลฯ เนื่องจากโรคบางชนิดเหล่านี้มีผลกระทบต่อความสมดุลของร่างกาย ทำให้เซลบางส่วนของร่างกายเสื่อมได้รวมทั้งเซลรากผม
- รากผมถูกทำลายจากการรับประทานยาบางชนิด ซึ่งเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากการรับประทานยาเข้าไป ทำให้เซลบางส่วนรวมถึงรากผมเสื่อมลงได้และสลายไปในที่สุด
- รากผมถูกทำลายจากสารเคมีบางชนิด ซึ่งมีผลกระทบต่อรากผมหรือยั้บยั้งการเจริญเติบโตของรากผมได้

2 ) ผมร่วง จากการอักเสบของผิวหนังศีรษะ
- จากการแพ้สารเคมีบางชนิด ก่อให้เกิดการอักเสบที่บริเวณผิวหนังศีรษะ และมีผลกระทบไปถึงเส้นผม ทำให้ผมหลุดร่วงง่ายขึ้น
- จากการย่อยสลายไขมันและสิ่งสกปรกที่ร่างกายขับออกมา ผ่านทางรูขุมขนของแบคทีเรียในบรรยากาศ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาหนังศีรษะมัน จะพบกับอาการคันศีรษะบ่อยๆ การเกาก่อให้เกิดการอักเสบบริเวณผิวหนังศีรษะและอาจติดเชื้อได้ง่ายๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาผมร่วง และผมที่ร่วงจะรุกลามบริเวณใกล้เคียงได้
นอกจากนี้ปัญหาผมร่วง ยังมีสาเหตุมาจากหลายๆส่วนอีกมากมาย เช่น ผมร่วงผิดปกติจากสาเหตุฮอร์โมนเพศเปลี่ยนแปลง ที่เรียกว่ามาจากพันธุกรรมนั่นเอง ผมจะบางบริเวณตรงกลางศีรษะ กลางกะหม่อม ( รูปไข่ / รูปตัววี ) รวมถึงด้านหน้า และด้านข้าง จะมีผลตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไปและจะรุนแรงในช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป ยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนแอนโดรเจนเป็นส่วนประกอบ ถ้ารับประทานบ่อยๆหรือเป็นประจำก็จะพบกับปัญหาผมร่วงมากผิดปกติเช่นกัน สตรีภายหลังการคลอดบุตรใหม่ๆ เส้นผมจะหลุดร่วงมากกว่าปกติ เนื่องจากการปรับสภาวสมดุลของร่างกายและฮอร์โมน เมื่อร่างกายปรับเข้าสู่สภาวะสมดุลตามปกติแล้ว เส้นผมใหม่ก็จะงอกขึ้นมาทดแทน ผู้ที่มีความเครียดทางอารมณ์สะสมเป็นเวลานานๆ ก็สามารถก่อให้เกิดปัญหาผมร่วงผิดปกติได้เช่นกัน ผมร่วงจากปัญหาสุขภาพ เช่น มีการผ่าตัดใหญ่ ลดน้ำหนักตัวอย่างรวดเร็ว มีปัญหาโรคโลหิตจาง ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคทางต่อมไทรอยด์ ไตวาย ต่อมหมวกไตอักเสบ การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต ยารักษาโรคเก๊า ยารักษาโรคไขข้ออักเสบ ยาต้านมะเร็ง การรับประทานวิตามินเอมากจนเกินไป จะมีผลทำให้ผมร่วงได้ ฉีดคีโม และอื่นๆ ปัจจัยส่วนอื่นๆ ที่สนับสนุนให้ผมร่วง เช่น การสระผมที่ไม่ถูกวิธี การสระผมที่รุนแรง การเช็ดผมที่รุนแรง การขยี้ผม การคุ้ยแคะ แกะเกาต่างๆ การสวมหมวกกันน็อกป็นประจำ ซึ่งจะทำให้หนังศีรษะร้อนอบอ้าว ปลีกแฉะด้วยเกลือ(เหงื่อ) การยืดผม การดัดผม โกรกสีผม กัดสีผมและใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์ที่รุนแรงต่อเส้นผม รังแคบนหนังศีรษะหากไม่รักษาก็ส่งผลให้ผมร่วงได้ง่าย ผู้ที่มีโภชนาการไม่ปกติ ทำให้ร่างกายขาดโปรตีน ขาดธาตุเหล็ก เส้นผมจะหยุดการเจริญเติบโตและหลุดร่วงในที่สุด ลดอาหารประเภทไขมันสูงและรสจัดๆ เน้นพืชผักสีเขียว พักผ่อนให้เพียงพอ





ผมแห้ง
สาเหตุที่ทำให้ผมเกิดแห้งมากนั้น อันเนื่องมาจาก
1. ปริมาณน้ำในเซลล์ชั้นนอกของเส้นผมไม่เพียงพอ
2. ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมาหล่อเลี้ยงเส้นผมไม่เพียงพอ

ปัจจัยภายนอกที่ทำให้ผมแห้ง กระด้าง
1. การเป่าไดร์ผมบ่อยๆ การเป่าไดร์ผมโดยใช้ไฟที่ร้อนเกินไป
2. การดัดผม
3. การย้อมผม โกรกผมบ่อยๆ เปลี่ยนสีผมบ่อยๆ
4. การว่ายน้ำบ่อยๆ ทั้งว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ และว่ายน้ำทะเล
5. การตากแดด ตากลมมากเกินไป




ผมย้อม/ดัด
การที่ผมธรรมดา ผ่านการย้อมผม ดัดผม กัดสีผม ย่อมจะทำให้ผมเสีย เสื่อมโทรมลงทั้งนั้น เพราะต้องผ่านการใช้สารเคมี เพื่อที่จะทำปฏิกิริยากับเส้นผม เพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเส้นผมให้ได้สี และรูปทรงตามต้องการ สารเคมีเหล่านี้มีฤทธิ์เป็นด่าง ทำให้เส้นผมอ่อนแอ เปราะบาง ผมแห้ง แตก หัก ผมขาดง่าย




ผมมัน
1. สาเหตุของผมที่มัน มีเกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงเส้นผมมากกว่าปกติ
2. ฮอร์โมนเพศมีส่วนที่ทำให้ผมมันกว่าปกติได้
3. กรรมพันธุ์มีส่วนที่ทำให้ผมมันกว่าธรรมดา
4. คนที่เส้นผมมัน มักจะมีใบหน้ามันร่วม




ผมแตกปลาย
ผมแตกปลายเกิดขึ้นเมื่อชั้นของเซลล์ของเส้นผมแตกแยกตัวออกจากกัน ครีมนวดผม (conditioner) จะทำให้เส้นผมที่ แตกปลายกลับมาสมานกันได้เพียงชั่วคราวเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมง หรืออย่างมากก็แค่ไม่กี่วัน โดยทั่วไปเมื่อสระผมครั้งต่อไปผมก็จะแตกปลายอีก จึงต้องใช้ครีมนวดผมอย่างสม่ำเสมอ วิธีใช้ครีมนวดผมคือใช้หลังสระผมแล้วชโลมครีมนวดผมทิ้งไว้สัก 10 นาที แล้วล้างออก หรือครีมนวดผมอีกแบบที่ใช้หลังสระผมโดยซับผมให้หมาดๆ แล้วชโลมครีมทิ้งไว้เลยโดยไม่ต้องล้างออก นอกจาหลังสระผม อย่าขยี้ผมแรงๆ ให้ใช้ผ้าขนหนูสะอาดซับผมให้แห้ง อย่าหวีผมหรือแปรงผมขณะที่ผมยังเปียกอยู่ ถ้าจะใช้เครื่องเป่าผมก็อย่าตั้งอุณหภูมิสูง เพราะจะทำลายเส้นผมทำให้ผมแตกปลายได้ง่ายขึ้น อย่าย้อมผม ดัดผม ยืดผมบ่อยเกินไปเพราะทำให้เส้นผมแตกปลายได้ง่าย โดยทั่วไปเส้นผมของคนเราหลังตัดครบ 1 เดือนจะเริ่มยาวไม่สม่ำเสมอ และมีผมแตกปลาย ดังนั้นการไปพบช่างตัดผมอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยให้เรือนผมดูสวยงามอยู่เสมอนะครับ วิธีแก้ไขผมแตกปลายที่ดีที่สุดก็คือตัดส่วนปลายผมที่แตกปลายออก ดังนั้นคนที่ไว้ผมสั้นจะมีปัญหาเรื่องผมแตกปลายน้อยกว่าคนที่ไว้ผมยาว

B-Swan แนะประเภทของเส้นผม



B-Swan แนะแยกประเภทของเส้นผมหลักๆได้ดังนี้

ผมมัน ลักษณะผมดูลีบ ขาดชีวิตชีวา เพราะต่อมไขมันบริเวณหนังศีรษะผลิตไขมันหล่อเลี้ยงมากเกินไป หรือเกิดจากความชื้นในอากาศ นอกจากนี้ความมันของผม ยังอาจมาจากการใช้ครีมนวดผม หรือผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมมากเกินไป

ผมแห้ง ลักษณะผมจะดูด้าน ขาดความเงางาม ดูแล้วรู้สึกหยาบกระด้าง เพราะหนังศีรษะผลิตไขมันมาหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอ หรือสาเหตุจากการดัดและย้อมสีผมบ่อยเกินไป หรือตากแดดมากเกินไป ผมจึงถูกทำลายโดยแสงแดด หรือเป็นเพราะท่านสุขภาพไม่ดี ร่างกายอ่อนล้า ขาดสารอาหารทำให้ผมไม่แข็งแรงไปด้วย

ผมแตกปลาย เป็นอีกหนึ่งลักษณะของผมแห้ง ดูขาดชีวิตชีวาและแตกบริเวณส่วนปลายผม เกิดขึ้นเพราะเปลือกด้านนอกสุดของเส้นผม (Cuticle) เสียหายมาก จนกระทั่งแกนผม (Cortex) แห้งและแตกจากการแปรงผมอย่างรุนแรง หรือโดนความร้อนจากไดร์เป่าผม

ผมเป็นรังแค เกิดจากหนังศีรษะที่แห้งและแตกเป็นขุยเนื่องจากความระคายเคือง การชะล้างแชมพูหรือครีมนวดผมออกไม่หมดจนเกิดการระคายเคืองหนังศีรษะ หรือเกิดจากความเครียด ทำให้ภูมิต้านทานลดลงจนเกิดเชื้อราขึ้น เชื้อรานี้จะเป็นสาเหตุของรังแคซึ่งแก้ไขได้ค่อนข้างยาก

ผมฟู ลักษณะผมชนิดนี้จะดูแห้งขาดความชุ่มชื้น ขาดน้ำหนัก

ผมธรรมดาลักษณะทั่วไปจะง่ายต่อการจัดทรง มีการหล่อเลี้ยงของไขมันบนหนังศีรษะอย่างสมดุล ทำให้เส้นผมเรียบลื่น เงางาม ไม่มันจนเกินไปและยังไม่มีปัญหาเรื่องรังแคหรือหนังศีรษะแห้งด้วย

ผมเส้นเล็ก ลักษณะผมเป็นเส้นเล็กดูกระจัดกระจาย ไร้น้ำหนัก ผมดูลีบแนบหนังศีรษะ และจัดทรงยาก มักเกิดภาวะไฟฟ้าสถิตย์เสมอทำให้ผมดูกระจายไร้ทิศทาง

B-Swan แนะนำทรงผมที่เข้ากับใบหน้า



B-Swan ขอแนะนำใบหน้าที่เหมาะกับทรงผม ดังนี้

ใบหน้ากลม ทรงผมควรเป็นผมที่ตัดสั้นแค่ระดับแนวขากรรไกร ไม่ควรให้สั้นไปกว่านั้น แต่ยาวกว่านั้นได้

ใบหน้าเหลี่ยม ผมที่ดัดเป็นลอนอ่อนๆ น่าจะเหมาะกับคุณ ทำให้ดูพลิ้วสลวย อ่อนโยน และช่วยลดมุมที่เป็นเหลี่ยมของใบหน้าไดัดีทีเดียว

ใบหน้ารูปไข่ ไว้ผมทรงไหนๆ ก็ดูเก๋ไปซะทุกทรง

ใบหน้ายาว น่าจะไว้ผมบ๊อบสั้นๆ และเปิดผมด้านข้างให้ดูหน้าผ่องใส กว้างขึ้น ไม่ดูยาวแคบจนหมด

เส้นผม & หนังศีรษะสัมพันธ์กันอย่างไร





หนังศีรษะของเรามีความสัมพันธ์กันกับเส้นผมชนิดแยกกันไม่ได้ เพราะถ้าไม่มีหนังศีรษะหรือหนังศีรษะไม่สมบูรณ์ เส้นผมก็ไม่สามารถงอกขึ้นมายลโฉมให้งดงามสง่าได้ เส้นผมเป็นองค์ประกอบเติมเต็มส่วนหนึ่งของมนุษย์ที่ธรรมชาติให้ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด คนที่ไม่มีผมก็เหมือนไก่ที่ไม่มีขน ซึ่งจะหมดความสวยงามและเอกลักษณ์ไป เส้นผมจะอยู่กับหนังศีรษะได้ ก็ต่อเมื่อสภาพหนังศีรษะสมบูรณ์มีสุขภาพที่ดีจริงๆ คือไม่มีปัญหาต่างๆมารบกวนผิวหนังศีรษะ แต่ถ้ามีปัจจัยเสี่ยงเข้ามารบกวนหนังศีรษะเมื่อใด ก็อาจจะกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของเส้นผมอย่างแน่นอน ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบมีมากมายทั้งสารเคมีและสภาวะสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษที่อยู่รอบๆตัวของเรา แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงอีกหลายอย่างที่อยู่ภายในตัวของเรา หนึ่งในหลายๆอย่างที่เป็นปัจจัยเสี่ยงก็คือ


1 )สภาวะของไขมันที่มีมากจนเกินไป


2 ) สภาวะของไขมันที่มีน้อยเกินไป ไขมันเกิดจากการสันดาปปฏิกิริยาทางเคมีภายในร่างกายของเราทุกคน จากขบวนการดังกล่าวนี้จะทำให้เกิดของเสียต่างๆ หนึ่งในนั้นคือไขมัน ซึ่งจะถูกขับออกมาตามช่องทางต่างๆทั่วร่างกาย รูขุมขนบนหนังศีรษะคืออีกช่องทางหนึ่งที่ร่างกายขับของเสียออกทางนี้ ซึ่งของเสียที่ขับออกทางนี้มีทั้ง ไขมัน เกลือ ยูเรีย เป็นต้น บางชนิดก็มีประโยชน์ เช่น ไขมัน ช่วยหล่อเลี้ยงหนังศีรษะให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ ถ้าขาดซึ่งไขมันก็จะทำให้ผิวหนังศีรษะแห้งแตกกระง่าย แต่ไขมันดังกล่าวถ้ามีในปริมาณที่มากเกินความต้องการของผิวหนังศีรษะ ก็อาจก่อให้เกิดโทษได้ การสะสมของไขมันมากๆ ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขนซึ่งเป็นทางเดินของเส้นผมบนหนังศีรษะได้ง่าย เส้นผมอ่อนก็จะงอกขึ้นสู่ผิวหนังศีรษะไม่ได้ ปริมาณผมก็จะน้อยลงเรื่อยๆ โดยทั่วไปผมของคนเราจะร่วงทุกๆวัน แบคทีเรียที่มีอยู่ทั่วไปในอากาศเข้าไปทำปฏิกิริยาย่อยสลายกลายเป็นของเสีย ( กรดอ่อนๆ ) และของเสียเหล่านี้จะไปทำลายรากโคนผมให้เน่าเสีย ทำให้รากผมอ่อนแอหลุดร่วงง่ายขึ้น เชื้อแบคทีเรียที่หมักหมมนานๆอาจทำให้เกิดสภวะคันศีรษะ และการอักเสบตามผิวหนังศีรษะได้ ถ้าว่าไปแล้วศีรษะของเราก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรานี่เอง ดังนั้นจึงหมั่นทำความสะอาดผิวหนังศีรษะและเส้นผมอย่างสม่ำเสมอ นอกจากไขมันเหล่านี้ ยังมีเกลือ และยูเรีย ที่มีผลกระทบต่อเส้นผม สภาวะหนังศีรษะแห้งหรือผมแห้ง เกิดจากปริมาณไขมันที่ร่างกายขับออกมาน้อยจนเกินไป ซึ่งจะมีผลทำให้ผิวหนังศีรษะแห้งไม่มีสารไขมันหล่อเลี้ยงได้เพียงพอ ทำให้เส้นผมขาดความสมบูรณ์และชุ่มชื้นไปด้วย เส้นผมอาจเล็กและลีบลงเรื่อยๆ แคระแกรน ผิวหนังศีรษะที่แห้งอาจกลายเป็นรังแคได้ในที่สุด การสระผมไม่ควรใช้แชมพูที่มีสารรุนแรง เพราะจะทำให้ผิวหนังศีรษะแห้งมากขึ้นและทำลายเส้นผมได้ง่ายๆ ควรใช้ออยจากพืชช่วยบำรุง เช่น น้ำมันมะกอก เป็นต้น จะเห็นได้ว่า ทั้งเส้นผมและหนังศีรษะต่างมีความสำคัญทั้งคู่ ขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งไม่สมบูรณ์หรือมีปัญหา อีกส่วนหนึ่งก็จะมีปัญหาตามไปด้วย ดังนั้นจึงต้องหมั่นดูแลทั้ง 2 ส่วนอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งกรณีผู้ที่มีปัญหาหนังศีรษะมัน ( ผมมัน ) และผู้ที่มีปัญหาหนังศีรษะแห้งต้องดูแลสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผมเป็นกรณีพิเศษอย่างใกล้ชิด


ศีรษะของคนเราเป็นแหล่งรวมและที่ตั้งของเส้นผม และคุณรู้หรือไม่ว่าสิ่งสกปรกปฏิกูลต่างๆที่เกิดจากปฏิกิริยาการย่อยสลายและสันดาปภายในร่างกาย เพราะปฏิกิริยาเหล่านี้เกิดขึ้นตลอดเวลา ผลจากปฏิกิริยาเหล่านี้คือของเสียสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น ไขมันส่วนเกิน เกลือที่ออกมาในรูปของเหงื่อ กรดยูริค และอื่นๆอีกมากมาย สิ่งสิ่งสกปรกเหล่านี้ส่วนหนึ่งถูกขับออกมาผ่านทางรูขุมขนของร่างกายทุกส่วน ส่วนอื่นๆอาจจะดูแลทำความสะอาดได้ง่าย ที่นี้เราจะมาโฟกัสตรงศีรษะของเราซึ่งเป็นจุดสำคัญของคนเราทุกคน สิ่งสกปรกต่างๆที่ร่างกายขับออกมาผ่านรูขุมขนบนผิวหนังศีรษะ ซึ่งมีเส้นผมกลุ่มใหญ่ปกคลุมอยู่ ทำให้สิ่งสกปรกทั้งหลายเหล่านี้ปะปนกระจัดกระจายตามบริเวณผิวหนังศีรษะและเส้นผม ในบรรยายกาศทุกตารางนี้จะมีแบคทีเรียหลายกลุ่มกระจายอยู่ทั่วๆไป และสิ่งสกปรกเหล่านี้คือเป้าหมายของแบคทีเรียที่จะเข้าไปย่อยสลาย เมื่อแบคทีเรียเข้าไปย่อยสลายสิ่งสกปรกที่มีอยู่ทั่วไปบนศีรษะของเรา ผลจากการย่อยสลายของแบคทีเรียเหล่านีก็จะก่อให้เกิดของเสียเพิ่มขึ้นมาอีกต่อหนึ่ง ดังนั้นจึงหมั่นดูแลทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะบ่อยๆ สิ่งที่จะมาทำความสะอาดเส้นผมและผิวหนังศีรษะก็คือแชมพูสระผมนั่นเอง ( Replus Shampoo ) ควรเลือกแชมพูที่ไม่มีสารตั้งต้นที่รุนแรงเกินไป เพราะส่วนมากนิยมใช้สารตั้งต้นที่รุนแรง ซึ่งมีราคาถูกทำให้ประหยัดต้นทุนการผลิตลงได้ แต่ผลกระทบจะเกิดขึ้นกับผู้บริโภคซึ่งไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ การทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะอย่างน้อยที่สุดวันเว้นวัน ( กรณีที่ผมไม่มีปัญหาอะไร ) แต่ถ้าผู้ที่มีปัญหาผมร่วงผิดปกติ ผมร่วงเรื้อรัง หรือรังแค ผมเสีย โดยเฉพาะผู้ที่ผมมันต้องทำความสะอาดทุกวันอย่างน้อยวันละครั้ง และควรใช้แชมพูที่สามารถชะล้างสิ่งสกปรกต่างๆโดยเฉพาะคราบไขมันส่วนเกิน เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดการเน่าเสียจากการย่อยของแบคทีเรีย รวมไปถึงกรดเกลือ กรดยูริค กรดพวกนี้ถ้าสะสมนานๆจะกัดกร่อนเส้นผมได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำความสะอาดหนังศีรษะและเส้นผมอยู่บ่อยๆ เพื่อให้เส้นผมและหนังศีรษะมีสุขภาพที่ดี ซึ่งจะช่วยในการรักษาเส้นผมไว้ได้ส่วนหนึ่ง ยิ่งหน้าร้อนอุณหภูมิสูงสิ่งสกปรกต่างๆก็มากตาม ลำพังเฉพาะในบรรยายกาศก็มีสิ่งสกปรกต่างๆเจือปนอยู่ทั่วไป

เคล็ดลับ B-Swan เพื่อคนผมสวย



เคล็ดลับ B-Swan เพื่อคนผมสวย

*การมีเส้นผมที่นุ่มสลวย หนาดกดำนั้นต่างก็เป็นสิ่งที่ใครๆ ต่างใฝ่ฝันถึง หลายคนอาจจะคิดว่าความคิดเช่นนี้มักจะมีเฉาะผู้หญิงเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้วคุณผู้ชายแท้ๆ เองก็คิดเช่นนี้เหมือนกันค่ะ

ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยทำให้เส้นผมของเรานั้น สวยแบบมีสุขภาพดีกันได้บ้าง

*อย่ายุ่งกับผมมากนัก เวลาที่คุณไปร้านทำผมนั้น ช่างทำผมมักแนะนำให้ทำผมต่างๆ มากมายนอกจากการสระหรือตัดผม เช่น ย้อม ดัด หมัก และในปัจจุบันมีการทำสปาหนังศีรษะและเส้นผมอีก

*แนะนำว่าให้ทำได้แต่อย่าทำบ่อยเกินไป อย่าลืมว่าผมของคุณนั้นเป็นส่วนที่ตายแล้ว ถ้าคุณไปดัดหรือย้อมผมมากเกินไปจนเสียแตกหรือหักแล้วก็ไม่สามารถจะซ่อมแซมได้

*เลือกหวี (comb) ที่ดี สิ่งที่ทำอันตรายต่อเส้นผมหรือหนังศีรษะที่สำคัญประการหนึ่งคือการหวีผม เพราะเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องทำเป็นประจำทุกวัน

*ก่อนอื่นควรเลือกหวีที่มีฟันกว้างพอสมควร เพราะถ้าคุณเลือกหวีที่ฟันแคบไปก็จะเป็นอันตรายต่อเส้นผมหรือหนังศีรษะได้ และถ้าสามารถเลือกหวีที่มีสารเทฟลอน (Teflon) เคลือบไว้ที่ฟันด้วยก็จะช่วยลดแรงเสียดทานต่างๆ ได้มากขึ้นด้วย

*นอกจากนี้ยังมีความเชื่อที่ว่าต้องหวีผมให้ได้ถึงวันละ 100 หนเพื่อให้ผมมีสุขภาพที่ดี เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะถ้าคุณหวีวันละ 100 หนเป็นเวลานานๆ ผมจะร่วงมากกว่า เพราะเป็นการทำอันตรายต่อเส้นผมและหนังศีรษะ โดยทั่วไปแนะนำให้หวีวันละ 5-10 ครั้งก็พอแล้ว

*เลือกแปรง (brush) ที่ดี ลักษณะของแปรงผมที่ดี ควรมีตัวฟันแปรงห่างกันพอสมควร และทำด้วยพลาสติกที่มีปลายเป็นจุดบอลเล็กๆ ติดอยู่เพื่อลดโอกาสที่จะขีดข่วนทำอันตรายต่อหนังศีรษะของคุณ

*ปัจจุบันแปรงที่กำลังนิยมกันมากคือแปรง ที่ทำจากไม้ซี่เล็กๆ มีปลายค่อนข้างแหลม เพราะเชื่อว่าเป็นผลิตธรรมชาติที่ดี ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดเช่นกัน

*วิธีง่ายๆ ในการเลือกซื้อ ก็คือลองแปรงผมของคุณ ถ้าคุณรู้สึกเจ็บหรือปวดก็แสดงว่าแปรงนั้นไม่เหมาะกับหนังศีรษะของคุณ

*อย่าหวีผมตอนผมเปียก เวลาหลังสระผมนั้นผมมักจะเปียกและพันกัน คนส่วนมากมักจะหวีหรือแปรงผมเพื่อที่จะให้ผมดูดี แต่เวลาที่ผมเปียกนั้นเป็นช่วงที่เส้นผมจะอ่อนแอมากไม่ควรไปทำอะไรกับเส้นผมช่วงนั้นมาก อาจจะใช้นิ้วมือช่วยสางผมจากโคนผมถึงปลายผม และเมื่อเวลาที่ผมเกือบแห้งแล้วจึงค่อยใช้หวีหรือแปรงผมจะดีกว่าค่ะ

*ไม่ควรเป่าผมด้วยความร้อน คนส่วนใหญ่นิยมเป่าผมให้แห้งโดยใช้ความร้อนสูง โดยใช้เครื่องเป่าผมที่บ้านหรือใช้ที่ครอบผม (hood) ในร้านทำผม ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด

*เพราะความร้อนจะสลายเส้นผมได้ และทำให้น้ำในเส้นผมระเหยออกอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิด "bubble hair" ซึ่งจะทำให้เส้นผมแตกหักได้ ความจริงแล้วควรใช้ที่เป่าผมให้ลมออกมาในอุณหภูมิปกติ (แต่ผู้ใช้ส่วนมากมักไม่ชอบ) หรืออาจจะใช้ความร้อนให้น้อยที่สุดจะดีกว่า

*อย่าแกะหรือเกาหนังศีรษะ ในคนที่มีรังแคหรือผิวหนังอักเสบที่ศีรษะบางคนจะมีอาการคันที่หนังศีรษะร่วมด้วย และมักจะคอยแกะหรือเกาทำให้ผมร่วงได้ ซึ่งบางทีจะรักษายากกว่าอาการรังแคเองเสียอีก

*ถ้าคุณมีรังแคหรือคันศีรษะมาก ควรพบแพทย์ผิวหนังดีกว่า เพราะอาจจำเป็นต้องใช้โลชั่นในกลุ่มของสเตียรอยด์ร่วมกับแชมพูยาสระผม และในรายที่มีอาการคันมากอาจต้องใช้ยา antihistamine ชนิดรับประทานเพื่อช่วยอาการคันในช่วงแรก

*ลองใช้ conditioning shampoo ส่วนมากคนที่มาหาหมอผิวหนังนั้นมักมีผมที่เสียมากพอสมควร การใช้แชมพูที่ผสมครีมนวดผม (conditioner) จะช่วยได้ แต่หมอผิวหนังก็มักแนะนำให้ใช้แยกกันโดยใช้ครีมนวดผม (conditioner) ตามหลังแชมพู

*ควรใช้ instant conditioner ตามหลังการสระผม instant conditioner ก็คือ conditioner ที่ใช้ทันทีหลังสระผม ซึ่งพวกนี้ระยะหลังๆ มักมีสารซิลิโคน (silicon) ประกอบด้วย การใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยให้สภาพเส้นผมดีขึ้นได้ไม่มากก็น้อย

*ลองใช้ deep conditioner อาทิตย์ละหน การใช้ deep conditioner จะเหมาะกับผมที่ได้รับการดัด ย้อม หรือทำเป็นเส้นตรง โดยการหมักไว้ประมาณ 20-30 นาที ซึ่งมี 2 ชนิด คือ ชนิดน้ำมัน (oil) หรือโปรตีน (protein) แนะนำให้ใช้แบบโปรตีนเพราะใช้ได้ทุกสภาพเส้นผม ส่วนชนิดน้ำมันเหมาะกับผมหยักศกที่ยืดเป็นผมเส้นตรง

*ตัดผมเสียที่ปลายผมออกไป คนส่วนมากมักไม่ค่อยอยากตัดผมที่เสียบริเวณปลายผมทิ้งเพราะอยากเก็บผมไว้นานๆ แต่หมอผิวหนังมักแนะนำให้ตัดเล็มออกไป เพราะผมที่เสียแล้วไม่มีประโยชน์ แถมยังทำให้ผมฟูฟ่องจัดทรงได้ยากอีกต่างหากค่ะ*เมื่ออ่านสิบวิธีดูแลรักษาเส้นผมให้ดีนี้แล้ว อย่าลืมนำไปปฏิบัตินะคะ เพื่อผมสวยสุขภาพแข็งแรงไปได้อีกนานๆ ค่ะ

B-Swan แนะนำวิธีที่ทำให้ผมยาวเร็วอีก 10%



B-Swan แนะนำวิธีที่ทำให้ผมยาวเร็วอีก 10%
ปรกติเส้นผมคนผมคนเรานั้น ขึ้นช้า เอามากๆ โดยเฉลี่ย วันนึงผมคนเราจะขึ้นยาว 0.02 มิลลิเมตร เท่านั้นนั้น 10 วันผมจะยาวขึ้นเพียง 0.2เซนติเมตร............แต่ถ้าผ่านไปประมาณ 30 วัน ผมคนเราจะยาวเพิ่มขึ้นเพียง0.6 เซนติเมตร เท่านั้นเอง คิดดูดิ ผมคนเรา ขึ้นช้าเป็นบ้าเลยสินะ แต่เราก้อมีวิธี ที่สามารถทำให้ผม ขึ้นได้ไว กว่ากำหนด เหมือนกันนะ ยิ่งบางคนตัดทรงสกินเฮ๊ด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยล่ะ

บางคนก้อแทบบ้า เลยก้อมี อุตสาห์ไว้ผมซะยาว แต่ไปตัดผมที่ร้านตัดผมร้านนึง กลับตัดทรงอะไรมาไม่รู้ จนแทบจะตัดหัวทิ้งเลย ก้อมี บอกให้ตัดบางๆ ดันตัดซะหายไปเยอะเลย บางร้านก้อตัดไม่สวย เรื่องแบบนี้มีเกิดขึ้นทุกวัน

เรามาดูกันว่า มีวิธีไหน ที่สามารถทำให้ผม ขึ้นไวๆ ได้บ้าง
1.สระผม ทุกวัน บางคนเห่อ มาก นึกว่า สระทุก บ่อย วันนึง สระผมถึง 3-4 รอบ ต่อวัน มันไม่มีผลหรอกคับ ยิ่งสระผมมาก หนังศีรษะมันก้อยิ่งชื่น เอาเป็นว่า วันนึง สระผมแค่ วันละ 1-2 ครั้ง ก้อเกินพอแล้วล่ะ

2.ใช้ยาสระผม "แบบสูตรรีบเร่ง" ตอนนี้ มียี่ห่อของ ซัลซิว กะ รีจอยร์ ที่(นุ่นเป็นฟรีเซ็นเตอร์หน่ะนะ 7 สัปดาห์ ยาวได้ถึง 2 ซม. ถือว่า ไว้มากๆ เลยนะเนี่ยแบบนี้

3.กินนมถั่วเหลือง เพื่อนๆอาจจะ งง ว่า นมถั่วเหลืองสามารถ ทำให้ผมขึ้นไวได้จริงๆ เหรอ เพราะมีสาร"ซอยยาโปรตีน" ที่ได้มาจาก นมถั่วเหลือง ซึ่งมีผล ทำให้ เส้นผมยาวไว

ด้วยความปราถนาดีจาก B-Swan

7 วิธีดูแลเส้นผมง่ายๆ แต่ได้ผล จาก B-Swan



7 วิธีดูแลเส้นผมง่ายๆ แต่ได้ผล จาก B-Swan

1. เวลาสระผมให้คุณนวดหนังศีรษะไปด้วย จะช่วยให้เกิดการหมุนเวียนโลหิตที่หนังศีรษะดีขึ้นและทำให้น้ำมันตามธรรมชาติไปหล่อเลี้ยงเส้นผมได้ดียิ่งขึ้น

2. การเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมก็สำคัญ เราต้องมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นต้องมีค่าความเป็นด่างที่สมดุล (PH Balance) เช่น ครีมนวดผมต้องมีคุณสมบัติปรับสภาพเส้นผมให้ชุ่มชื่นและสามารถล้างออกได้ง่าย เป็นต้น

3. การหวีผมขณะที่เส้นผมเปียกน้ำจะทำให้เส้นผมขาดได้ง่าย ดังนั้นถ้าจำเป็นต้องหวีผมขณะที่เปียก ควรใช้หวีไม้ซี่ห่างจะช่วยให้เส้นผมขาดน้อยลงได้

4. สาวๆ ที่นิยมไดร์ผมให้ตรงดัดผมด้วยโรลไฟฟ้าและรีดผมด้วยไฟฟ้า ควรใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากความร้อนด้วยเสมอ ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนสำหรับเส้นผมให้เลือกใช้มากมาย ก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพเส้นผม

5. เวลาเป่าผมให้แห้งควรเป่าผมจากบนลงล่าง เพราะเกล็ดผมจะเรียงตัวตามธรรมชาติ ทำให้เส้นผมเรียงตัวสวยและเรียบเงางาม ไม่ชี้ฟู

6. การรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ก็ช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพที่ดีด้วยเช่นกัน ดังนั้นควรเลือกรับประทานอาหารจำพวก ผัก ผลไม้ และควรดื่มน้ำมากๆ นอกจากนี้ต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านกระบวนการขัดสีต่างๆ รวมทั้งเครื่องดื่มแอลอฮอล์และบุหรี่

7. ถ้ามีกิจกรรมที่จำเป็นต้องทำกลางแจ้งก็อย่าลืมที่จะปกป้องเส้นผมจากแสงแดดด้วย โดยการสวมหมวกหรือทาครีมปรับสภาพผมทิ้งไว้เมื่อต้องออกแดด หลังจากนั้นค่อยล้างออกตาม

ด้วยความปราถนาดี จาก B-Swan

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เคล็ดลับการบำรุงรักษาเส้นผม ไม่ให้หลุดร่วงง่าย



เส้นผมที่แข็งแรงช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีได้ เราจึงควรให้ความสำคัญกับความแข็งแรงและไม่หลุดร่วงง่ายของเส้นผม ซึ่งเป็นผลโดยตรงมาจากปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอกคือการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล

ปัจจัยภายในของแต่ละบุคคล ได้แก่
1. สภาวะจิตใจ อันได้แก่ อารมณ์ ความเครียดหรือความกดดันที่สะสมเป็นเวลานานๆ ซึ่งจะทำให้ระบบประสาททำงานมากขึ้น และอารมณ์เหล่านี้จะไปกระตุ้น สารบางตัวให้มากขึ้นในขณะเดียวกันก็จะไปยับยั้งการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย บางตัว ทำให้ขาดความสมดุล และมีผลโดยตรงต่อความแข็งแรงของเส้นผม ดังนั้นจึงควรทำจิตใจให้แจ่มใส ฝึกจิตให้มั่นคง รู้จักควบคุมตัวเอง ปล่อยวาง ไม่วิตกกังวลมากจนเกินไป
2. การเจ็บป่วยจากโรคบางชนิด เช่น โรคโลหิตจาง, ไทรอยด์ ,ไตวาย ต่อมหมวกไตอักเสบ, การผ่าตัด, การฉายรังสี, การขาดสารอาหารอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้เซลล์บางส่วนของร่างกายเสื่อมได้รวมทั้งเซลล์เส้นผมด้วย
3. พันธุกรรม ผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษที่มีศีรษะล้าน ผมบาง หรือเส้นเล็ก

ปัจจัยภายนอก (การใช้ชีวิตประจำวัน) ได้แก่
1. อาหาร ควรรับประทานให้ถูกโภชนาการ ลดอาหารประเภทไขมันสูงและรสเผ็ดจัด,หวานจัด เน้นพืชผักสีเขียว เนื้อปลา, เนื้อสัตว์, ผัก, ผลไม้ และผลิตภัณฑ์จากนม ซึ่งมีสารอาหารต่างๆ ที่จะช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง คือ ไบโอติน ช่วยให้รากผมแข็งแรงเป็นเงางาม พบมากในถั่ว, ไข่แดง, ข้าวซ้อมมือ, ถั่วเหลืองและข้าวสาลี ธาตุเหล็ก ช่วยสร้างฮีโมบินซึ่งเป็นตัวนำออกซิเจน เพื่อทำให้โครงสร้างของเส้นผมแข็งแรง พบมากในข้าวโอ๊ต, เนื้อสัตว์, ถั่วต่าง ๆ และผักใบเขียว กรดแพนโทเทน ช่วยให้เส้นผมเจริญงอกงาม มีความชุ่มชื้นและช่วยรักษาเส้นผมให้นุ่มสลวยเป็นธรรมชาติ พบมากในผักเกือบทุกชนิด, เนื้อสัตว์, เครื่องในสัตว์, ปลา, ไข่แดง, ผักสีเขียวและธัญพืช สังกะสี ช่วยในการเผาผลาญและทำให้เส้นผมเจริญงอกงามดี พบมากในหอยนางรม, เนื้อแดง, ธัญพืชไม่ขัดขาวและถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ

2. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการพักผ่อนให้เพียงพอ

3. การใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อเส้นผม เช่น น้ำยาดัดผม, ยืดผม, การทำสีผม หรือการใช้น้ำมันแต่งผม, เจล, มูส แล้วล้างคราบออกไม่หมด ซึ่งจะทำให้หนังศีรษะมัน และดึงดูดสิ่งสกปรกเข้ามา ทำให้รูขุมขนอุดตัน มีผลต่อการงอกใหม่ของเส้นผม และการหลุดร่วงของเส้นผม

4.นิสัยการดึงทึ้งผม รวมถึงการสระผมและนวดหนังศีรษะแรงๆ ก็ทำให้เส้นผมหลุดร่วงได้เช่นกัน


ปัจจุบันมียาที่เป็นส่วนผสมในการรักษาผมร่วงได้ แต่อาจมีผลข้างเคียงที่พึงระวัง คือ

1. Minoxidil คือกลุ่มยาทาที่ใช้รักษาโรคความดันสูง โดยการขยายหลอดเลือดให้กว้างขึ้น ด้วยโครงสร้างทางเคมีของตัวยา มีผลข้างเคียงทำให้มีขนขึ้นบนศีรษะและตามตัว สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม เมื่อผสม Minoxidil เป็นยาหรือโลชั่นแล้ว ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง จะเก็บได้นานประมาณ 3 ปี Minoxidil มีฤทธิ์ในการเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตตรงกระเปาะผม จึงเพิ่มสารอาหารแก่เซลล์ผม ทำให้เซลล์ผมเกิดการแบ่งตัวเจริญเติบโตขึ้นผมจึงมีการเปลี่ยนแปลงจากผมหรือขนเล็กๆ ให้เป็นเส้นผมที่โตขึ้น Minoxidil สามารถใช้ทารักษาเพื่อให้ผมงอกได้ ทั้งจากปัญหากรรมพันธุ์ และปัญหาผมร่วงเป็นหย่อม นอกจากนี้ยังใช้ป้องกันการหลุดร่วงของเส้นผมในคนที่กำลังจะศีรษะล้านได้ด้วย โดยจะเห็นผล ประมาณ 3 เดือนหลังจากทายา
ผลข้างเคียงที่ควรระวังของ Minoxidil คือจะทำให้ความดันโลหิตลดลง เกิดอาหารหน้ามืด วิงเวียนได้ง่าย และอาจมีผลต่อการทำงานของหัวใจในระยะยาวด้วย และเมื่อหยุดการใช้ยา Minoxidil จะทำให้เส้นผม หนวด และขนร่วงยิ่งกว่าเดิม

2. Finasteride คือยาที่ใช้รับประทาน เพื่อรักษาภาวะต่อมลูกหมากโต ในผู้สูงอายุ โดยฤทธิ์ของยาจะต้านการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ต่อมลูกหมากฝ่อ ทำให้เส้นผมดกดำหนาแต่ถ้าต้องการคงสภาพของเส้นผมไว้ จึงจำเป็นต้องทาโลชั่นที่มี Minoxidil ควบคู่กันไปตลอดผลข้างเคียงที่ควรระวังของการรับประทาน Finasteride คือสมรรถภาพทางเพศจะลดลง และไม่แนะนำให้ใช้ในผู้หญิงที่มีแนวโน้มจะตั้งครรภ์ เพราะยานี้จะทำให้เกิดความผิดปกติ หรือพัฒนาการของอวัยวะเพศของทารกได้

การเลือกแปรงให้เหมาะกับเส้นผมและเคล็ดลับการบำรุงผม

การ แปรงผมบ่อย ๆ จะไปช่วยกระตุ้นต่อมไขมันบนหนังศีรษะให้เร่งผลิตน้ำมันตามธรรมชาติมาบำรุง เส้นผมให้เงางามและนุ่มสลวย แต่ในอดีตนั้นยังไม่มีพัฒนาการในเรื่องของการทำสีผม หรือการทำเคมีต่าง ๆ กับเส้นผม เส้นผมเป็นผมธรรมชาติจึงสามารถใช้วิธีนี้ได้ แต่ถ้าเป็นปัจจุบันนี้ที่หลายคนนิยมทำเคมีผมทำให้เส้นผมแตกปลายได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการดูแลรักษาเส้นผมอย่างแท้จริง จึงขอแนะนำว่าควรแปรงผมเป็นประจำแค่ช่วงเช้าและเย็น เพื่อขจัดฝุ่นผงและสิ่งสกปรกให้หลุดออกจากเส้นผม แต่ทั้งนี้ไม่ควรแปรงผมขณะที่ผมเปียกเพราะขณะนั้นเส้นผมจะมีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งทำให้เส้นผมแตกหักได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้การเลือกแปรงให้เหมาะกับลักษณะเส้นผมหรือทรงผมก็มีส่วนสำคัญด้วย เช่นกัน
ผมยาว ควรเลือกแปรงที่มีขนแปรงเป็นเหล็กและบุด้วยยาง จะช่วยให้เส้นผมไม่พันกันขณะหวี ทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิตที่ทำให้ผมชี้ฟูไม่เป็นทรงได้ด้วย หรือถ้าต้องการจัดทรงก็ควรใช้แปรงกลมขนาดใหญ่ที่ช่วยให้จัดทรงได้ง่ายขึ้น และทำให้ปลายผมได้รูปสวยไม่ชี้ไปชี้มา
ผมยาวประบ่า ควรเลือกแปรงที่มีขนแปรงเรียวเล็กและบุด้านหลังด้วยยาง ถ้าขนแปรงยาวจะช่วยให้เส้นผมไม่พันกัน ส่วนขนแปรงสั้นจะช่วยให้ผิวของเส้นผมเรียบลื่นนุ่มสลวยตลอดเส้น
ผมสั้น ควรเลือกแปรงที่มีรูปรงสี่เหลี่ยม ขนแปรงสั้นยาวสลับกัน จะช่วยยกโคนผมให้ดูมีวอลลุ่มและไม่ลีบแบน
ผมหยักศก ควรเลือกใช้หวีที่มีลักษณะคล้ายคราดแทนแปรง โดยเลือกที่ด้ามหวีกว้าง แบน และห่าง เพราะหวีลักษณะนี้จะช่วยรักษาสภาพลอนผมให้เป็นทรงไม่ฟูได้เป็นอย่างดี
นอกจากการเลือกแปรงให้เหมาะกับเส้นผมแล้ว เรายังมีวิธีการบำรุงเส้นผมด้วยวิธีธรรมชาติ ตามสภาพของเส้นผม มาฝากอีกด้วยจ้ะ
ผมมัน ให้นำว่านหางจระเข้มาฝานเปลือกออก แล้วนำเจลไปปั่นจากนั้นตักมา 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา และแชมพูที่ใช้อยู่อีก 1 ถ้วยตวงแล้วนำไปสระผมตามปกติ จะช่วยให้เส้นผมมีสมดุลดีขึ้น ไม่แห้งและไม่มันเช่นเดิม
ผมแห้ง นำอโวคาโด 1 ผลมาปอกเปลือกและบดให้ละเอียด ผสมกับกะทิจนเป็นเนื้อเดียวกันใช้หมักผมหลังจากสระผมเรียบร้อยแล้วโดยนวดให้ทั่วศีรษะ ใช้หวีซี่ห่างๆ แปรงผมให้เป็นระเบียบแล้วทิ้งไว้ 15 นาทีจึงล้างออก
ผมจัดทรงยาก ปั่นครีมนวดผม 1/2 ถ้วยตวงเข้ากับน้ำผึ้ง 1/2 ถ้วยตวงและน้ำมันอัลมอนด์ 1 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มานวดเส้นผมและหนังศีรษะขณะเปียกให้ทั่ว ทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออก
ผมไร้น้ำหนัก ใช้น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยตวง ผสมน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง ล้างผมในน้ำสุดท้ายของการสระผมจะทำให้เส้นผมนุ่นเป็นประกายเงางาม
ผมมีรังแค หลังจากสระผมด้วยแชมพูขจัดรังแคตามปกติแล้ว ให้ใช้ชาโรสแมรี่ที่ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วมาล้างผมในน้ำสุดท้าย หรือใช้ชาโรสแมรี่ผสมกับแชมพูในอัตราส่วน 70 ต่อ 30 ก็ได้
เคล็ดลับง่ายๆเหล่านี้ จะทำให้คุณมีผมที่นุ่มสลวย น่าจับ น่ามอง อย่างแน่นอน

เคล็ดลับการบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดี



การมีสุขภาพผมที่ดี เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา แต่สุขภาพผมที่ดีได้นั้น ต้องเกิดจากการดูแลเอาใจใส่รักษาอย่างทะนุถนอม ควบคู่กับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่ พักผ่อนอย่างเพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงภาวะความตึงเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงของปัญหาผมร่วง

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมนั้น มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งในแต่ละชนิดมีสรรพคุณแตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะสมตามสภาพของเส้นผมของแต่ละคน ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลักจากการสกัด ธรรมชาติ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถหลีกเลี่ยงสารเคมีปนเปื้อน และการระคายเคืองต่อหนังศีรษะ

น้ำมันหอม สกัดมาจากต้นพืช ดอกไม้ ผลไม้ เปลือก ลำต้น ต้นหญ้า และเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ น้ำมันหอมเชื่อว่า มีสรรพคุณ การรักษาทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งช่วยปรับปรุงและบรรเทาอาการป่วยบางชนิดได้ บางชนิดสามารถป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ลดอาการบวมบรรเทาอาการเจ็บ กลิ่นหอมสดชื่น ซึ่งมีผลทำให้จิตใจกระปรี้กระเปร่า ร่าเริง ผ่อนคลายจิตใจ คลายเครียด อาทิเช่น เปปเปอร์มินต์ ส้ม มะนาว เกร็ปฟรุ๊ต และที ทรี ออย อีกทั้งบำรุงรักษาเส้นผมให้ชุ่มชื้น อ่อนนุ่ม ละมุนละไม

สาร เอ เอช เอ ซึ่งมีอยู่มากในจำพวกพืช ผัก และผลไม้ มีคุณประโยชน์ ช่วยปรับสมดุลค่าพีเอช ของเส้นผมและทำให้เส้นผมเรียบ ป้องกันการฉีกขาด การเสียดสี ดังนั้นผมจึงแวววาว และเงางามวิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยเสริมสร้างเส้นผมใหม่ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ฟื้นฟูความแข็งแรง ช่วยให้ผมเสียกลับคืนสภาพ ผมดี นุ่มสลวย นอกจากนั้นยังขจัด และป้องกัน สิ่งสกปรก ที่สามารถอุดตันหนังศีรษะ ด้วยอณูอันละเอียดสามารถ แทรกซึมลึกสู่เส้นผม ทำให้ผมได้รับ การบำรุง และนุ่มชุ่มชื้น มีชีวิตชีวา

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมสกับ ยังมีผลทางด้านจิตวิทยา คือให้ความรู้สึก กระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว ผ่อนคลาย หากจะเลือกใช้ที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมสกับ เพื่อสุขภาพผมสลยเงางาม และอารมณ์ดีแจ่มใส

โดย: น.ส. วิชุดา เตชะกาญจนวัฒน์ ม.6/2 เลขที่ 16 รร.สตรีศรีสุริโยทัย กทม.

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ภาพการอบรม ประชุม สัมนา B-Swan 29/07/52

ประมวลภาพการอบรม ประชุม สัมนา สร้างฝันให้เป็นจริง กับ ธุรกิจ B-Swan
ณ. โรงแรมหาดใหญ่พาราไดส&รีสอร์ท 29/07/52 ที่ผ่านมา และเป็นการเปิดตัวของ B-Swan Color Shine ที่เหล่าบรรดาสาวกของ B-Swan เรียกร้องและเฝ้ารออย่างรอคอย


สาวเชียร์พอยท์ B-Swan ใครเป็นใคร ชื่ออะไร โทรไปที่นี่ 074-244307 และก็อย่าลืมโอนเงินจ่ายค่าพอยท์ให้คุณเธอด้วยล่ะ มิเช่นนั้นโดนด่าเช็ด ชิมิ ชิมิ



B-Swan Color Shine 5,000 กล่อง มารึยังนะ....



เอ... มารึยังน่ะ B-Swan Color Shine 5,000 กล่อง พี่เอา 10 กล่องนะ จองไว้นานแล้ว



เหล่าผู้มีรายได้ 50 เท่า 100 เท่า จากมาเลเซีย ที่เจียดแบ่ง B-Swan Noni Black Hair Magic ให้เราทุกอาทิตย์ๆ ละ x,xxx กล่อง ต้องขอบคุณเค้านะ



ในที่สุด สิ่งที่เราๆ ท่านๆ รอคอย B-Swan Color Shine ให้ทดลองใช้ 5,000 กล่อง ก็มาถึง
แต่เอ่... ไมเหลือแค่นี้หว่า รึว่าเค้าแจกหมดแล้ว ใครเอาไปไหน บอกมาซะดีๆ B-Swan Color Shine ให้ทดลองใช้ 5,000 กล่อง อยู่ไหน...อยู่ไหน... จะเอา ถามไปถามมา อ๋อ...หิ้วมาแค่ 4 กล่อง แจกไปซะ 1กล่อง ก็เลยเหลืออยู่แค่ 3 กล่อง ว้า.... ป้าๆ เจ้ๆ นั่งรอ B-Swan Color Shine 5,000 กล่อง ตั้งแต่ 5 โมงเช้า อย่างใจจดใจจ่อ หวังจะได้ไปทดลองใช้ให้หาย...อยาก ก็เลยมีอันต้อง จ๋อยยยย!!!


งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา การอบรม ประชุม สัมนา สร้างฝันให้เป็นจริง กับ ธุรกิจ B-Swan
ณ. โรงแรมหาดใหญ่พาราไดส&รีสอร์ท ก็ต้องมีการจากกัน มีทั้งคนยิ้มออกบ้าง ยิ้มไม่ออกบ้าง แต่งานนี้ไม่มีเสียน้ำตานะ...จะบอกให้


ใครเป็นไครบ้าง ดูกันเอาเองนะ



พี่คนที่หันหลังนี่เป็นใครเนี่ย เฉลยหน่อยจ้า



จะมีแบบนี้อีกมั๊ยน้อ... ชิมิ ชิมิ